รัสเซียถล่มขีปนาวุธใส่เมืองภาคเหนือของยูเครน พบผู้เสียชีวิต 7 ราย
เหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม 2566 ในเมืองเชอร์นิฮิฟ ทางตอนเหนือของประเทศยูเครน โดยขีปนาวุธลูกหนึ่งได้ตกใส่โรงละคร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
ทางการยูเครน เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน บาดเจ็บ 144 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 15 คน และยังต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 25 คน ซึ่งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่วนใหญ่คือผู้คนที่กำลังร่วมงานเฉลิมฉลองวันหยุดของศานาคริสต์นิกายออโธดอกซ์ที่โบสถ์แห่งหนึ่งคำพูดจาก สล็อต777
ผอ.โรงเรียนแจ้ง นร.ห่อข้าวกินเอง เหตุไม่ได้รับจัดสรรงบ ล่าสุดยกเลิกแล้ว
รัฐบาลเผย 7 เดือนแรกต่างชาติลงทุนในไทยเพิ่ม 17 % เงินลงทุน 5.8 หมื่นล้าน
การโจมตีที่เกิดขึ้นยังทำให้พื้นที่จัตุรัสหลักของเมือง และอาคารมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้รับความเสียหายด้วย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เมืองเชอร์นิฮิฟเปิดเผยว่า โรงละครที่เกิดเหตุอยู่ในระหว่างประชุมของผู้ผลิตโดรนหลายบริษัท จึงทำให้ตกเป็นเป้าของกองทัพรัสเซีย แต่เห็นได้ชัดเจนว่าเหตุการณ์นี้เป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม เพราะเป็นการออกคำสั่งยิงขีปนาวุธในช่วงเวลากลางวันทั้งที่รู้ว่าจะทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตาย
ส่วนเจ้าหน้าที่สหประชาชาติประจำยูเครน ออกแถลงการณ์แสดงความไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อการโจมตีครั้งนี้ โดยระบุว่าเป็นเรื่องเลวร้ายที่เกิดการโจมตีจัตุรัสหลักของเมือง ในช่วงเช้า ที่ผู้คนพลุกพล่าน และรวมตัวกันที่โบสถ์เพื่อเฉลิมฉลองวันสำคัญทางศาสนา สำหรับเมืองเชอร์นิฮิฟตั้งอยู่ห่างจากชายแดนประเทศเบลารุสเพียงประมาณ 50 กิโลเมตรเท่านั้น และเคยถูกรัสเซียปิดล้อม ในช่วงแรกของสงครามรุกรานยูเครน
ขณะที่เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนได้เดินทางเยือนกรุงสต็อกโฮล์ม เมืองหลวง ของสวีเดน ที่อยู่ระหว่างการเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต
โดย ประธานาธิบดี เซเลนสกี ได้พบกับนายกรัฐมนตรี อูล์ฟ คริสเตอร์สัน (Ulf Kristersson) ผู้นำสวีเดนเพฃื่อพูดคุยเกี่ยวกับการส่งเครื่องบินรบ “กริพเพน”ให้แก่ยูเครนสำหรับการต่อสู้กับรัสเซีย ซึ่งนักบินของกองทัพยูเครนได้เข้ารับการฝึกอบรมและทดสอบการใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้แล้ว
นอกจากนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นาย พาล จอห์นสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดนเปิดเผยว่ารัฐบาลมีแผนให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครรอบใหม่เป็นมูลค่า 313.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 11,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องกระสุนและอะไหล่สำหรับยุทโธปกรณ์ที่ยูเครนได้รับจากสวีเดนก่อนหน้านี้
โดยครั้งนี้จะเป็นการให้ความช่วยเหลือรอบที่ 13 จากสวีเดน และจะทำให้มูลค่าการช่วยเหลือเพิ่มขึ้นเป็น 1,800 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 60,000 ล้านบาทนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น